การเลือกซื้อ “ลูกล้อ”

การเลือกซื้อ “ลูกล้อ”

อุปกรณ์สำคัญในการขับเคลื่อนสิ่งต่างๆทั้งในครัวเรือนไปจนถึงอุตสาหรกรรมคงหนีไม่พ้น “ลูกล้อ” ที่ทำหน้าที่ช่วยเคลื่อนย้ายวัตถุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นล้อเลื่อนสำหรับงานเบาที่ใช้ในเฟอร์นิเจอร์ ตู้ เก้าอี้ โต๊ะทำงาน ลูกล้อสำหรับงานหนักระดับปานกลาง หรือล้อสำหรับงานอุตสาหกรรมพิเศษ เช่น ติดตั้งในเครื่องจักร ล้อลากพาเลท รถเข็นขนของ ตะแกรงเหล็ก เป็นต้น โดยที่จะแบ่งตามวัสดุที่ใช้ผลิต เช่นไนลอน ยาง พลาสติก พียู เหล็กหล่อ ฯลฯ และวัสดุแต่ละชนิดนั้นมีคุณสมบัติในการรับน้ำหนัก ความคล่องตัว ความทนทาน ที่แตกต่างกันออกไป จึงจำเป็นต้องเลือกวัสดุของลูกล้อให้เหมาะสมกับพื้นที่ในการใช้งาน ปัจจุบันในท้องตลาดมีลูกล้อให้เลือกหลากรูปแบบ หลายขนาด และวัสดุให้เลือกซื้อค่อนข้างมาก โดยที่วัสดุแต่ละชนิดมีลักษณะเฉพาะตัวดังนี้

♦️ ลูกล้อไนลอน จะมีน้ำหนักเบา ดูดซับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม ทนทานต่อสารเคมีและตัวทำละลาย เหมาะสำหรับใช้บนพื้นผิวที่ไม่เรียบ ไม่เหมาะกับการใช้งานที่มีอุณหภูมิสูง 

♦️ ลูกล้อยาง มีความยืดหยุ่นสูง ดูดซับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยมและสามารถยึดเกาะได้ดี เหมาะสำหรับการใช้งานบนพื้นผิวเรียบ ไม่เหมาะกับการบรรทุกของหนักเพราะจะส่งผลให้ล้อยางสึกหรออย่างรวดเร็ว

♦️ ลูกล้อโพลียูรีเทน มีความทนทานสูง ล้อเลื่อนง่าย ยึดเกาะได้ดีเยี่ยมบนพื้นผิวเรียบ ทนทานต่อสารเคมี น้ำมันและการขัดถูได้ดีเยี่ยม ไม่เหมาะกับพื้นที่ที่ขรุขระเพราะจะส่งผลให้ลูกล้อเกิดรอยด่างได้

♦️ ลูกล้อพลาสติก มีความแข็งแรง ดูดซับแรงกระแทกได้ดี เหนียว คงรูปไม่แตกหักง่าย ทนทานต่อสภาพแวดล้อม ทนทานต่อสารเคมีและความร้อน สามารถรับน้ำหนักได้ปานกลาง เหมาะกับการใช้งานบนพื้นผิวที่เรียบ

♦️ ลูกล้อเหล็กหล่อ มีความแข็งแรงทนทาน ทนทานต่อการสึกหรอ สามารถบรรทุกน้ำหนักได้สูง สามารถใช้ในพื้นที่ขรุขระได้แต่จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าเมื่อใช้บนคอนกรีต ล้อเหล็กหล่อมีน้ำหนักมากและอาจสร้างความเสียหายให้กับพื้นผิวได้

ละนอกจากวัสดุที่ใช้ในการผลิตแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความสามารถในการรับน้ำหนัก ประเภทของพื้นผิวที่ล้อจะกลิ้ง และข้อกำหนดเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ สิ่งสำคัญคือต้องเลือกวัสดุที่เหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่าล้อมีสมรรถนะสูงสุดและอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยมีข้อควรคำนึงดังนี้

1. ความสามารถในการรับน้ำหนักจะขึ้นอยู่กับขนาดของลูกล้อ มีผลต่อความสามารถในการรับน้ำหนักและความคล่องตัวในการเคลื่อนย้าย ลูกล้อที่มีขนาดใหญ่จะช่วยให้สามารถรับน้ำหนักได้มากยิ่งขึ้นและสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างนิ่มนวลกว่า การเลือกขนาดของลูกล้อจึงต้องคำนึงถึงสิ่งของที่จะเคลื่อนย้ายเป็นหลัก

2.ประเภทของลูกล้อ โดยจะแบ่งเป็น2ประเภทหลักๆคือ ลูกล้อตาย(Fixed)และลูกล้อหมุน(Swivel) ลูกล้อตายจะถูกออกแบบให้วิ่งไปทางเดียว ส่วนลูกล้อแบบหมุนจะสามารถเคลื่อนไหวไปได้ทุกทิศทาง โดยต้องคำนึงถึงการใช้งานเป็นหลักว่านำไปใช้กับการเคลื่อนย้ายแบบใด ส่วนใหญ่แล้วจะมีการใส่ล้อหมุนไว้ด้านหน้าและล้อตายไว้ด้านหลัง

3.รูปแบบและการดีไซน์ หากเป็นในงานอุตสหกรรมอาจไม่จำเป็นจะต้องเน้นความสวยงามแต่เน้นไปในทางความคงทนของการใช้งานเสียมากกว่า แต่ในงานเฟอร์นิเจอร์ในบ้านอาจต้องการความสมดุลระหว่างดีไซน์และฟังก์ชั่นเพื่อให้เกิดความกลมกลืน เกิดความสวยงามและสมดุลของเฟอร์นิเจอร์กับลูกล้อ

อย่างไรก็ตามการเลือกลูกล้อไม่ว่าจะใช้งานในภาคครัวเรือนหรืออุตสาหกรรมก็ต้องคำนึงถึงความสามารถในการรองรับน้ำหนัก ประเภทของพื้นผิวที่ลูกล้อกลิ้ง และข้อกำหนดเฉพาะสำหรับการใช้งาน สิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกคือการเลือกวัสดุที่เหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่าจะได้ลูกล้อที่มีสมรรถนะสูงสุดและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ดังนั้น สำหรับการใช้ลูกล้อไปติดตั้งใช้ในงานต่างๆ ต้องเลือกให้เหมาะกับลักษณะประเภทงาน เพื่อทุ่นแรงลดเวลาการทำงาน เคลื่อนย้ายเคลื่อนที่ได้สะดวก เพิ่มความปลอดภัย เพื่อให้แน่ใจว่าการปฏิบัติงานจะเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ 

แพนยูเนี่ยน อิมปอร์ต เอ็กซ์ปอร์ต มีประสบการณ์ที่ยาวนานกว่า 40 ปี ในการนำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์มือจับ-อุปกรณ์ฟิตติ้งและอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์แบบครบวงจร จากแบรนด์ชั้นนำทั่วทุกมุมโลก ทำให้มั่นใจได้ว่าเรามีความเชี่ยวชาญในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในทุกความต้องการ รับประกันคุณภาพและความพึงพอใจ มีบริการหลังการขายและรับประกันสินค้า

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Line: @panunion
Facebook : Pan Union มือจับประตู มือจับเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ฟิตติ้ง
Tel.: 02-911-5600-4

Share this post

Start typing and press Enter to search

Shopping Cart

ไม่มีสินค้าในตะกร้า